การจองชื่อบริษัทเป็นหนึ่งในขั้นตอนจดทะเบียนบริษัท เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก่อนจะไปเข้าสู่กระบวนการจดทะเบียนบริษัทได้
หากคุณเป็นคนหนึ่งจะเป็นผู้ประกอบการธุรกิจเป็นของตัวเอง แนะนำให้จดทะเบียนบริษัทเพื่อผลประโยชน์ด้านภาษี และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจ
ทำไมต้องการจองชื่อบริษัท
การจองชื่อบริษัท นั่นก็เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ประกอบการคนอื่นๆ นำชื่อบริษัทของคุณไปใช้ซ้ำ ทั้งยังเป็นการเช็คว่าชื่อบริษัทของคุณนั้น
มีคนอื่นๆ ใช้ไปแล้วหรือยัง ถ้าชื่อบริษัทซ้ำกับธุรกิจอื่นที่มีการจดทะเบียนบริษัทเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว ชื่อนั้นก็จะไม่สามารถใช้ได้ตามเงื่อนไขที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนดไว้เกี่ยวกับการตั้งชื่อบริษัท
สิ่งที่ควรทราบก่อนการจองชื่อบริษัท
ก่อนที่คุณจะดำเนินการการจองชื่อบริษัทสิ่งแรกที่ราควรทราบนั่นคือวิธีการจดทะเบียน ซึ่งการจองชื่อบริษัทนั้นจะขึ้นอยู่กับวิธีในการจดทะเบียนบริษัทนั่นเอง วิธีการจดทะเบียนบริษัทแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆดังนี้
1. การจดทะเบียนบริษัทแบบยื่นเอกสารประกอบการจดทะเบียนแบบกระดาษ
2. การจดทะเบียนบริษัทแบบออนไลน์ หรือที่เรียกว่า e-Registration
3. การจองชื่อบริษัทจะเป็นผู้ถือหุ้น หุ้นส่วนผู้จัดการในกรณีห้างหุ้นส่วน หรือกรรมการในกรณีบริษัทเป็นผู้ยื่นขอจองชื่อก็ได้ แต่บุคคลนั้นต้องเป็นผู้ลงนามในใบอนุมัติจองชื่อดังกล่าว
4. สามารถจองชื่อได้ 3 ชื่อ และจะได้รับการพิจารณาชื่อแรกก่อน หากชื่อแรกซ้ำหรือไม่ผ่านเกณฑ์ ทางนายทะเบียนก็จะพิจารณาชื่อในลำดับถัดไปแทนทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกระเบียบและเงื่อนไขในการตั้งชื่อบริษัท สามารถสรุปรายละเอียดได้ดังนี้
เงื่อนไขในการจองชื่อบริษัท
ก่อนที่จะยื่นจองชื่อบริษัท ก็ต้องมีการวางแผนในการเลือกชื่อที่ต้องไม่ซ้ำหรือคล้ายกับบริษัทอื่นๆ ที่จดทะเบียนไปแล้ว ควรใช้ชื่อที่สั้นและเข้าใจง่าย รวมถึงไม่ใช้คำหยาบคาย
หลีกเลี่ยงชื่อที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ และหน่วยงานราชการ เพราะตามหลักเกณฑ์การจองชื่อบริษัท ได้ระบุไว้ว่าจะต้องไม่มีข้อความที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. พระนามของพระเจ้าแผ่นดิน พระมเหสี รัชทายาท หรือพระบรมวงศานุวงศ์ในพระราชวงศ์ปัจจุบัน เว้นแต่ได้รับพระบรมราชานุญาต
2. ชื่อประเทศ เว้นแต่จะได้ระบุไว้ในวงเล็บต่อท้ายชื่อ และอยู่หน้าคำว่า “จำกัด”
3. ชื่อที่อาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า รัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน หรือองค์การระหว่างประเทศเป็นเจ้าของ หรือผู้ดำเนินการ
4. ชื่อกระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานหรือองค์กรของรัฐ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้อง
5. ชื่อที่จะใช้ในการจดทะเบียนต้องไม่มีชื่อตรงหรือคล้ายคลึงกับบริษัทอื่นที่ได้จองชื่อหรือจดทะเบียนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว จนทำให้บุคคลอื่นอาจเข้าใจผิดได้
6. สำหรับชื่อภาษาต่างประเทศที่จะใช้ในการจดทะเบียนต้องไม่มีชื่อตรงหรือคล้ายคลึงกับชื่อภาษาต่างประเทศของบริษัทอื่นที่ได้จองชื่อหรือจดทะเบียนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว จนทำให้บุคคลอื่นอาจเข้าใจผิดได้
7.ชื่อที่ใช้จะต้องไม่ขัดต่อนโยบายของรัฐ และไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
8.ชื่อบริษัทภาษาต่างประเทศต้องมีความหมายหรือเสียงเรียกขานที่ตรงกับชื่อภาษาไทย
สิ่งที่ต้องเตรียมประกอบการการจองชื่อบริษัท
1. ข้อมูลที่อยู่ตามบัตรประชาชน ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล
2. บัตรประชาชน
3. ชื่อบริษัทภาษาไทย และภาษาอังกฤษ อาจเตรียมเอาไว้เผื่อซ้ำประมาณ 1-3 ชื่อ
ติดต่อปรึกษา งานบัญชีภาษี
โทรศัพท์ : 02-8539396
081-235-3798
099-962-3252
Add Line : 0993308228